ความโดดเด่นของเอเชียในกีฬาชกมวย และยกน้ำหนัก
โอลิมปิกเกมส์ 2024 ได้เริ่มต้นขึ้นแล้วอย่างไม่เป็นทางการ หลังจากเกมลูกหนังโอลิมปิกได้คิกออฟวันที่ 24 กรกฏาคม 2024 เป็นวันแรก จากนั้นจะมีพิธีเปิดในวันที่ 26 กรกฏาคม 2024
ปฏิเสธไม่ได้ว่า จากกีฬาหลายชนิดที่เปิดแข่งขันนั้น มวย และ กีฬายกน้ำหนัก เป็นสองกีฬาโอลิมปิกที่ชาติในเอเชียมีโอกาสลุ้นเหรียญรางวัลไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งในอดีตนักกีฬายกน้ำหนักของไทยก็เคยไปสร้างชื่อมาแล้วเช่นเดียวกัน
สำหรับนักกีฬาไทยที่คว้าเหรียญที่ บราซิล เมื่อปี 2016 ในกีฬายกน้ำหนักสามารถทำได้ถึง 4 เหรียญด้วยกัน ประกอบด้วย
เหรียญทอง : โสภิตา ธนสาร ยกน้ำหนัก รุ่น 48 กก.หญิง, สุกัญญา ศรีสุราช ยกน้ำหนัก รุ่น 58 กก.หญิง
เหรียญเงิน : พิมศิริ ศิริแก้ว ยกน้ำหนัก รุ่น 58 กก.หญิง
และ เหรียญทองแดง : สินธุ์เพชร กรวยทอง ยกน้ำหนักย รุ่น 56 กก.ชาย
ส่วนในโอลิมปิกหนล่าสุดที่ โตเกียว ในปี 2020 ไทยพลาดเหรียญในกีฬาชนิดนี้ เนื่องจากโดนแบนสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ หรือ IWF เป็นเวลา 3 ปี เนื่องจากมีการพบสารต้องห้ามในร่างกายของนักกีฬายกน้ำหนักไทย 9 คน ในช่วงปลายปี 2018
อย่างไรก็ตามชาติในเอเชีย ยังคงโดดเด่นกับการแข่งขันยกน้ำหนัก โดยเฉพาะการแข่งของฝั่งผู้หญิง ซึ่งหนึ่งในนักกีฬาที่น่าจับตา และเรียกได้ว่าเป็นความหวังของชาติในเอเชียที่จะสอดแทรกลุ้นเหรียญก็คือ มิราไบ ชานุ นักยกน้ำหนักสาวจากประเทศอินเดีย วัยเพียง 29 ปี ซึ่งครั้งที่แล้วเธอแจ้งเกิดในโอลิมปิกที่โตเกียว ด้วยการคว้าเหรียญเงินประวัติศาสตร์ในประเภท 49 กก.
โอลิมปิก ที่ปารีส ถือเป็นครั้งที่ 3 ของเธอ ซึ่งเธอตั้งใจที่จะเป็นผู้หญิงอินเดียคนที่สองที่ได้รับเหรียญโอลิมปิกติดต่อกัน ตามรอย ปูซาร์ลา สินธุ นักแบดมินตันหญิงชาวอินเดียที่เคยทำได้มาแล้ว
มิราไบ ผ่านการแข่งขันในโอลิมปิกที่ ริโอปี 2016 และโตเกียวปี 2020 อย่างไรก็ตาม เส้นทางสู่อันดับ 1 ในรุ่น 49 กก. หญิงนั้นยากลำบากอย่างยิ่ง และ มิราไบ ซึ่งกลายเป็นแชมป์โลกในรุ่นน้ำหนักของเธอในปี 2017 ก็เป็นชาวอินเดียคนแรกที่คว้าชัยชนะ
หนึ่งในคู่แข่งคนสำคัญของเธอ และเป็นอีกหนึ่งนักกีฬาที่ทำให้การยกน้ำหนักครั้งนี้ของชาติในเอเชียโดดเด่นน่าจับตาคือ โหว จือ ฮุย ดีกรีแชมป์โตเกียวรุ่นน้ำหนัก 49 กก. จากประเทศจีน ที่เธอได้สร้างสถิติโลก และได้รับการจัดอันดับที่ชัดเจนจากผู้เข้าแข่งขัน 3 รายที่มีน้ำหนัก 200 กิโลกรัม ได้แก่ มิราไบ ชานู, สุรจนา คำเบ้า จากประเทศไทย และ จัวดาน เดลาครูซ จากสหรัฐอเมริกา
ขณะที่ฝั่งไทย ในอดีตกีฬายกน้ำหนักหญิงถือว่าโดดเด่น โดยทางสมาคมกีฬายกน้ำหนักฯ ได้โควตา 4 คน ที่ส่งไปแข่งขันประกอบด้วย “ออย” สุรจนา คำเบ้า ชิงชัยรุ่น 49 กก.และ “ส้ม” ดวงอักษร ใจดี ที่จะแข่งในรุ่นมากกว่า 81 กก. ขณะที่ฝั่งชาย “ฟ่าง” ธีรพงศ์ ศิลาชัย แข่งขันรุ่น 61 กก. และ “เวฟ” วีรพล วิชุมา จะขึ้นชิงชัยรุ่น 73 กก.
ด้านกีฬามวยสากลหากจะพูดถึงชาติที่มีลุ้นที่สุดในเอเชีย ทีมไทยจัดอยู่ในอันดับต้นๆ และในครั้งนี้ไทยได้ตั๋วโอลิมปิกทั้งหมด 8 คน แบ่งเป็น มวยหญิง 5 คน เเละชาย 3 คน โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือการคว้าเหรียญทองโอลิมปิกให้ได้ครั้งเเรกในรอบ 16 ปี ต่อจาก สมจิตร จงจอหอ ที่ทำได้ในปักกิ่งเกมส์ปี 2008
รายชื่อนักกีฬามวยสากลของไทยชาย 3 คน ประกอบด้วย ธิติสรรณ์ ปั้นโหมด (รุ่น 51 กิโลกรัมชาย), บรรจง สินศิริ (รุ่น 63.5 กิโลกรัมชาย) และ วีระพล จงจอหอ (รุ่น 80 กิโลกรัมชาย) ขณะฝั่งหญิงได้แก่ จุฑามาศ รักสัตย์ (รุ่น 50 กิโลกรัมหญิง), จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง (รุ่น 66 กิโลกรัมหญิง), ธนัญญา สมนึก (รุ่น 60 กิโลกรัมหญิง), จุฑามาศ จิตรพงศ์ (รุ่น 54 กิโลกรัมหญิง) และ ใบสน มณีก้อน (รุ่น 75 กิโลกรัมหญิง)
อีกชาตินึงที่น่าสนใจคือฟิลิปปินส์ โดยที่ผ่านมา พวกเขาเคยคว้าเหรียญจากกีฬามวยไป 8 จาก 14 เหรียญที่ฟิลิปปินส์เคยได้รับในโอลิมปิก แต่ยังไม่มีเหรียญทองมาครองได้เลย ดังนั้นในครั้งนี้พวกเขาจริงจังกับการคว้าเหรียญทองมาครองเป็นครั้งแรก โดยมี “แพ็คแมน” แมนนี ปาเกียว อดีตยอดมวยระดับโลกช่วยสนับสนุน
ซึ่งนับตั้งแต่ปี 1996 เป็นต้นมา ฟิลิปปินส์ได้ส่งทีมนักกีฬาชกมวยจำนวนมากเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก และหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะประสบความสำเร็จ ครั้งนี้พวกเขาจะนำทัพโดยนักมวยดีกรีเหรียญเงินโอลิมปิกหญิงหนที่แล้วอย่าง เนสตีย์ เปเตซิโอ วัย 32 ปี ที่เธอหมายมั่นจะสร้างประวัติศาสตร์ให้ได้
●●●
เข้าชมบล็อคของเราเพื่อดูข้อมูลต่างๆ และค่าอ๊อดส์ที่หลากหลายของกีฬา
อัพเดทข่าวสารทุกอย่างเกี่ยวกับกีฬาและการเดิมพัน