ลิเวอร์พูล หวิดพ่ายคาบ้าน แต่ยังตามตีเสมอ แมนฯซิตี้ 1-1
ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟิลด์ รับการมาเยือนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2024 เมื่อคืนวันที่ 10 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยเจ้าบ้านโดนนำไปก่อน แต่ยังตามตีเสมอได้สำเร็จ ทำให้จบเกมแบ่งกันไปคนละแต้ม
“หงส์แดง” ของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ส่ง ควิวีน เคลเลเฮอร์ เฝ้าเสาอย่างต่อเนื่อง หลังจาก อลิสซอน เจ็บยาว เกมรับใช้กองหลัง 4 คน ประกอบด้วย คอเนอร์ แบร็ดลี่ย์, จาเรลล์ ควอนซาห์, เฟอร์จิล ฟาน ไดจค์ และ โจ โกเมซ ในเกมลีกแดนผู้ดีนัดนี้
ส่วนเกมรุกจัดเต็มสูบทั้ง ฮาร์วี่ย์ เอลเลียต, หลุยส์ ดิอาซ และ ดาร์วิน นูนเญซ ลงผนึกกำลังแดนหน้า ขณะที่รายของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หายเจ็บกลับมาทัน แต่มีชื่อเป็นเพียงตัวสำรอง ด้านทีมเยือนของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ใช้กองหลัง 3 คน ประกอบด้วย ไคล์ วอล์คเกอร์, มานูเอล อาคันจิ และ นาธาน อาเก้ เกมรุกส่ง เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ลงยืนเป็นกองหน้าตัวเป้าพร้อมล่าตาข่าย โดยมี เควิน เดอ บรอยน์ ยืนคุมเกมแดนกลาง รวมถึงมีตัวช่วยสนับสนุนในเกมรุกอย่าง ฮูเลียน อัลวาเรซ และ ฟิล โฟเด้น
นอกจากนี้พวกเขายังได้ เฌเรมี่ โดกู ที่ก่อนเริ่มเกมมีข่าวว่าอาจต้องรอเช็คความฟิตจากปัญหาอาการบาดเจ็บ แต่นัดนี้กลับมามีชื่อเป็นตัวสำรองทำให้ “เรือใบสีฟ้า” ยังคงมีตัวเลือกในเกมรุกที่น่ากลัว
จังหวะสำคัญของเกม
เริ่มเกมฟุตบอลลีกอังกฤษในครึ่งแรกกลายเป็น แมนฯ ซิตี้ บุกมาครองบอล และมีรูปเกมที่ดีกว่า ทำให้เจ้่าบ้านต้องตกเป็นฝ่ายตั้งรับ โดย ฮูเลียน อัลวาเรซ มีโอกาสได้จังหวะสับไกยิง แต่ยังไม่ผ่านมือผู้รักษาประตูเจ้าบ้านอย่าง ควีวิน เคลเลเฮอร์ ที่ยังเซฟได้ดี
เกมผ่านไป 8 นาที เควิน เดอ บรอยน์ แต่งบอลก่อนได้จังหวะหาช่องซัดเต็มข้อ แต่ เคลเลเฮอร์ ยังคงยอดเยี่ยมปฏิเสธไว้ได้ อย่างไรก็ตามเขาก็ต้องเจองานหนักตั้งแต่ต้นเกมอย่างต่อเนื่อง จากนั้นในนาทีที่ 13 ลิเวอร์พูล ได้บุกครั้งแรกจนเกือบมีลุ้นขึ้นนำจากการวางบอลยาว และเป็น แบร็ดลี่ย์ กระชากพาบอลหนี นาธาน อาเก้ ก่อนซัดกึ่งยิงกึ่งผ่าน แต่ลูกบอลเฉียดออกไปเสาไกล โดยมี ดาร์วิน นูนเญซ ตามสไลด์หวังส่งบอลตุงตาข่าย แต่ช้าไปนิดเดียว
เกมเข้าสู่นาที 18 ดาร์วิน นูนเญซ เกือบพาแฟนบอลใน แอนฟิลด์ สเตเดี้ยม ได้เฮทั้งสนาม เมื่อมีโอกาสสลัดกองหลังทีมเยือนหลุดเข้าไปในกรอบ ก่อนไหลบอลให้ หลุยส์ ดิอาซ ได้ยิงส่งบอลเข้าประตูไปแล้ว แต่ผู้ตัดสินเป่าเป็นจังหวะล้ำหน้าของ นูนเญซ ทำให้ ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย
แต่แล้วในนาที 23 แฟนบอล ลิเวอร์พูล ต้องเงียบทั้งสนาม เมื่อ เควิน เดอ บรอยน์ เปิดเตะมุมมาเสาแรก ก่อนเป็น จอห์น สโตนส์ ที่ฉีกหนีตัวประกบ หาช่องส่งบอลไปตุงตาข่ายพา แมนฯ ซิตี้ บุกมานำ 1-0
ในนาที 31 “หงส์แดง” ที่พยายามหาประตูตีเสมอ กลับมาได้ลุ้นอีกครั้ง จากการขึ้นเกมฝั่งขวา โดย เอลเลียต เปิดเข้าไปเสาแรก และเป็น โดมินิค โซบอสซ์ไล ได้โอกาสเทกตัวขึ้นโขก แต่บอลเหินข้ามคานออกไป ทำให้สกอร์ยังตามหลัง 0-1
นาที 39 เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ กองหน้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้จังหวะตะลุยเดี่ยวครึ่งสนาม กระชากพาบอลหนี เฟอร์จิล ฟาน ไดจค์ ก่อนจะได้ยิง แต่ยิงไม่ดีเท่าไหร่ ทำให้ ควีวิน เคลเลเฮอร์ รับไว้ได้สบาย
ในช่วงท้ายครึ่งแรก ลิเวอร์พูล มาได้ลุ้นตีเสมออีกครั้ง เมื่อ หลุยส์ ดิอาซ ซัดบอลหน้าประตู แต่ยังไม่ตรงกรอบ จากนั้นช่วงทดเจ็บนาที 45+3 โดมินิค โซบอสซ์ไล ปั่นฟรีคิก แต่บอลยังพุ่งไปเข้ามือ เอแดร์ซอน ทำให้ครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ยังตามหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-1
แต่เมื่อเริ่มครึ่งหลังไม่นาน ลิเวอร์พูล ก็มาได้ประตูสำคัญหลังพยายามมาหลายครั้ง จากความผิดพลาดของ นาธาน อาเก้ กองหลังทีมเยือนที่ส่งบอลคืนหลังไม่ดี ก่อนโดน ดาร์วิน นูนเญซ ฉกบอลไปได้ ทำให้ เอแดร์ซอน พยายามออกมาสกัด แต่ช้ากว่าจนกลายเป็นเสียฟาวล์ และเสียจุดโทษรวมถึงโดนใบเหลืองด้วย จากนั้น อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ รับหน้าที่สังหารไม่พลาด ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ตีเสมอ แมนซิตี้ 1-1 ในนาทีที่ 50
นาที 56 เอแดร์ซอน ได้รับบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหวหลังมีอาการเจ็บจากช็อตปะทะกับ นูนเญซ จนเสียจุดโทษ ทำให้ต้องเปลี่ยนตัวออก และเป็น สเตฟาน ออร์เตก้า ผู้รักษาประตูสำรองต้องลงมาเฝ้าเสาแทน
เข้าสู่นาที 58 เควิน เดอ บรอยน์ ผ่านบอลออกขวาให้ ฟิล โฟเด้น หลุดไปยิงเสาแรก แต่ยังติดเซฟของ เคลเลเฮอร์ อีกครั้ง
นาที 71 ลิเวอร์พูล ยังไม่ลดความพยายาม โดย แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เติมเกมขึ้นสูงก่อนจะครอสบอลเข้ากรอบให้ ดาร์วิน นูนเญซ สอดขึ้นมาซัดเต็มๆ แต่บอลตรงตัว สเตฟาน ออร์เตก้า
ท้ายเกม นาที 89 เฌเรมี่ โดกู ปีกตัวจี๊ดที่ลงมาเป็นสำรอง หลุดไปยิงผ่านมือ เคลเลเฮอร์ แต่ลูกบอลพุ่งไปชนเสา ก่อนที่ เคลเลเฮอร์ จะตามมาเก็บไว้ได้ ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มเติม จบเกม ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเสมอกับ แมนซิตี้ 1-1 แบ่งกันไปทีมละแต้ม
สถิติสำคัญ
เควิน เดอ บรอยน์ มีส่วนร่วมโดยตรงกับ 13 ประตูจาก 12 นัดรวมทุกรายการที่ลงเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในปี 2014 (2 ประตู 11 แอสซิสต์) มากที่สุดในบรรดานักเตะ พรีเมียร์ลีก ด้วยกันในปีปฏิทินปีนี้
สรุปผลงาน
โดย หงส์แดง เก็บเพิ่มเป็น 64 แต้มเท่ากับ อาร์เซน่อล ของ มิเกล อาร์เตต้า แต่ลูกได้เสียเป็นรองรั้งอันดับ 2 ส่วน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เก็บเพิ่มเป็น 63 คะแนน ยึดที่ 3 ของตารางพรีเมียร์ลีก
และสำหรับแฟนๆที่สนใจ ทีเด็ด SBOTOP และ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2024 ทีเด็ดเดิมพัน รวมไปถึง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2024 ผลการแข่งขัน สามารถติดตามข่าวได้ที่นี่
●●●
เข้าชมบล็อคของเราเพื่อดูข้อมูลต่างๆ และค่าอ๊อดส์ที่หลากหลายของฟุตบอล
อัพเดทข่าวสารทุกอย่างเกี่ยวกับกีฬาและการเดิมพัน
