วิเคราะห์ 3 ทีมเต็งแชมป์พรีเมียร์ลีก 2024
การขับเคี่ยวแย่งแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2023/24 ยังคงเป็นไปอย่างเข้มข้น เมื่อ 3 อันดับแรกบนหัวตารางอย่าง อาร์เซนอล, ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีแต้มห่างกันคะแนนเดียวเท่านั้น หลังจากแข่งมา 28 นัดเท่ากัน โดยสถานการณปัจจุบัน ปืนใหญ่ ภายใต้การคุมทีมของ มิเกล อาร์เตต้า ครองจ่าฝูงของตาราง หลังจากเกมลีกนัดล่าสุดเปิดบ้านชนะ เบรนท์ฟอร์ด 2-1 มีอยู่ 64 คะแนน
ส่วนอันดับสองตามมาติดๆ คือ ลิเวอร์พูล ของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ที่ไปสะดุดตัดแต้มกันเองในลีกลูกหนังแดนผู้ดีกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หลังจากเสมอกัน 1-1 ทำให้ หงส์แดง มี 64 แต้ม เท่ากับ ปืนใหญ่ ส่วน เรือใบสีฟ้า ภายใต้การคุมทัพของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า อยู่อันดับ 3 มี 63 คะแนน
เมื่อเทียบสถิติผลการแข่งขันบนตาราง อาร์เซนอล ชนะ 20 เสมอ 4 แพ้ 4 เกม ส่วน ลิเวอร์พูล ชนะ 19 เสมอ 7 แพ้ 2 เกม ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะ 19 เสมอ 6 และแพ้ 3 เกม ทำให้แต้มบนตารางไม่ห่างกันมากนัก และมีโอกาสไปถึงแชมป์ได้ทั้ง 3 ทีม ยิ่งกว่านั้น นี่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 2013/14 ที่ทีมลุ้นแชมป์มีช่องว่างห่างกันเพียงคะแนนเดียวของทีมสามอันดับแรก ซึ่งตอนนั้นทีมที่จบฤดูกาลด้วยการเป็น 3 อันดับแรก ได้แก่ แมนฯซิตี้, ลิเวอร์พูล และ เชลซี ตามลำดับ
แน่นอนว่าทั้งสามทีมมีจุดแข็งของตัวเอง ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังเป็นกลุ่มทีมที่พลาดท่าฟอร์มสะดุดค่อนข้างยากในซีซั่นนี้ แต่ทีมไหนมีโอกาสไปถึงแชมป์ได้มากที่สุด?
อาร์เซนอล จ่าฝูงในตอนนี้ต้องยอมรับว่า พวกเขากำลังใจมาเต็มกับผลงานทั้งในลีก และถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่ยังอยู่บนเส้นทางลุ้นแชมป์บิ๊กเอียร์เช่นกัน แน่นอนว่าต้องชื่นชมการทำทีมของ มิเกล อาร์เตต้า ที่พา ปืนใหญ่ แข็งแกร่งสุดๆ อีกทั้งสถานการณ์ยังได้เปรียบกว่า ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพราะมีผลต่างประตูได้เสียดีกว่ารองจ่าฝูงอย่าง หงส์แดง ถึง 7 ประตู และ เรือใบสีฟ้า 11 ประตู
อย่างไรก็ตามหากมองถึง 10 เกมต่อจากนี้ ถือว่าไม่ง่าย เพราะ อาร์เซนอล ยังมีโปรแกรมหนักรออยู่ โดยเฉพาะเกมแรกที่ต้องเจอกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นอกจากนี้ยังต้องเจอ แอสตัน วิลล่า, สเปอร์ส และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รวมถึง เชลซี ปิดท้าย ประกอบกับที่ต้องโฟกัส ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก อีกถ้วยก็ทำให้ อาร์เซนอล ต้องมีสมาธิอย่างมากที่จะรักษามาตรฐานของตัวเอง
ส่วน ลิเวอร์พูล สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดจากบรรดา 3 ทีม นั่นคือปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บที่เวียนมาเล่นงานพวกเขาอีกครั้ง แต่ก็โชคดีที่ได้นักเตะหลักบางรายกลับมาแล้ว อีกทั้งยังมีข่าวดี เมื่อนักเตะอีกส่วนหนึ่งมีลุ้นกลับมาลงสนามได้ทันในช่วงท้ายฤดูกาล นั่นทำให้พวกเขาจะมีขุมกำลังต่อกรแย่งแชมป์มากขึ้น แต่ก็ต้องโฟกัสฟุตบอล ยูโรป้า ลีก ไปด้วย
ขณะที่โปรแกรม 10 นัดสุดท้ายของ ลิเวอร์พูล ถือว่าเบาสุดใน 3 ทีม โดยมีเกมใหญ่เจอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, สเปอร์ส และ แอสตัน วิลล่า ที่กำลังทำผลงานได้ดีเท่านั้น นั่นทำให้โอกาสโกยแต้มในช่วงที่เหลือไม่ยากเย็นมากนัก หากไม่ทำผิดพลาดไปเอง ส่วนเรื่องของความกระหาย แน่นอนว่า ลิเวอร์พูล มีเต็มเปี่ยม เพราะพวกเขาต่างต้องการคว้าแชมป์เพื่อเป็นของขวัญอำลาให้กับ เยอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมันที่จะอำลาทีมหลังจบฤดูกาลนี้
ด้าน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แม้ที่ผ่านมาจะมีผู้เล่นบาดเจ็บ แต่ความยืดหยุ่น และการโรเตชั่นนักเตะตลอดจนระบบการเล่นที่เปลี่ยนแปลงไปตามผู้เล่นที่ลงสนามด้วยฝีมือของ เป๊ป ก็ทำให้พวกเขาไม่น่ากังวลในเรื่องนี้มากนัก ที่ผ่านมา เป๊ป แสดงให้เห็นแล้วว่า เขาจัดการกับปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บได้ดีแค่ไหน จนกระทั่งนักเตะทยอยหายเจ็บกลับมาเรื่อยๆ ซึ่งถือเป็นทีมที่รักษาความคงเส้นคงวาได้ดีที่สุดทีมหนึ่งเลยก็ว่าได้ ส่วน 10 เกมที่เหลือ พวกเขาจะเริ่มต้นด้วยศึกหนักกับ อาร์เซนอล และ แอสตัน วิลล่า ก่อนจะมีบิ๊กแมตช์อีกครั้งในเกมกับ สเปอร์ส ซึ่งหากมองจากโปรแกรมที่เหลือสถานการณ์ของพวกเขาไม่ต่างจาก ลิเวอร์พูล ที่มีโอกาสโกยแต้มสูง
ท้ายที่สุดความกดดันจะตกอยู่กับ อาร์เซนอล ที่แม้ว่าจะนำหน้าคู่แข่งบนตาราง แต่เส้นทางต่อจากนี้ไม่ง่ายเลยที่พวกเขาจะรักษาตำแหน่งจ่าฝูงเอาไว้ แต่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ หาก อาร์เซนอล จะจบด้วยการเป็นแชมป์ฟุตบอลลีกอังกฤษในฤดูกาลนี้
และสำหรับแฟนๆที่สนใจ ทีเด็ด SBOTOP และ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2024 ทีเด็ดเดิมพัน รวมไปถึง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2024 ผลการแข่งขัน สามารถติดตามข่าวได้ที่นี่
●●●
เข้าชมบล็อคของเราเพื่อดูข้อมูลต่างๆ และค่าอ๊อดส์ที่หลากหลายของฟุตบอล
อัพเดทข่าวสารทุกอย่างเกี่ยวกับกีฬาและการเดิมพัน