สเปน VS อังกฤษ
ผลการแข่งขันฟุตบอล ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมาต้องบอกเลยว่าเซอร์ไพรส์แฟนบอลทั่วโลกอย่างมาก เพราะทัพทรีไลอ้อน ของ แกเร็ธเซาท์เกต บุกมาเอาชนะ ขุนพล กระทิงดุไปได้แบบสุดมันส์ ด้วยสกอร์ 2-3ตามรายงานจาก SBOBET
การจัดทัพของ แกเร็ธเซาท์เกต นัดนี้ ไม่มี จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่หมดสิทธ์ลงสนามเนื่องจากได้รับใบเหลืองเกินจำนวนโควต้า ทำให้ แฮร์รี่ วิงค์ มิดฟิลด์เลือดใหม่จาก ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ได้รับโอกาสลงสนามผสานงานร่วมกับ รอสส์ บาร์คลีย์ และ เอริค ดายเออร์
ส่วนแนวรับ โจ โกเมซ ที่กำลังฟอร์มร้อนแรงกับ หงส์แดง ลิเวอร์พูล ได้โอกาสยืนตัวจริง คู่กับ แฮร์รี่ แม็คไกว์
ทางด้าน ทัพ กระกระทิงดุสเปน เอ็นริเก้ ตัดสินใจเปลี่ยนโฉมทีมจากนัดที่แล้วที่อุ่นเครืองถล่มเวลส์ 4-1 โดยใช้โรดริโก้,อาสปาส,อเซนซิโอ้ยืนสามกองหน้า ซาอูล,บุสเกตส์,ติอาโก้เป็นแผงมิดฟิลด์ อลอนโซ่,รามอส,นาโช่,ฆอนนี่เป็นแผงหลัง โดยมีเด เกอาเฝ้าเสา
รูปเกมในช่วงครึ่งแรกเป็นทางฝั่งของ ทีมชาติอังกฤษ ที่ครองเกมได้เหนือกว่า โดยออกนำ สเปน ถึง 3-0
จังหวะสำคัญของเกม
เริ่มเกมมาได้ 16 นาที ทัพ ทรีไลอ้อน อังกฤษได้ประตูออกนำไปก่อนจากจังหวะ การผสานงานสุดเหนือชั้นของ แฮร์รี่ เคน ไหลบอลต่อให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ก่อนเลือกจ่ายยัดเข้าเขตโทษให้ ราฮีม สเตอร์ลิง ได้วิ่งมาแตะหนึ่งจังหวะก่อนกดเสียบตาข่ายเข้าไปอย่างสวยงามขอบคุณรายงานการแข่งขันจาก ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก 2018 อัตราต่อรอง
ทีมชาติ อังกฤษ มาบวกประตูเพิ่มเป็น 2-0 ในนาที 29 ทัพกระทิงดุ ได้บุกอยู่ดี ๆ แต่ไม่สามารถจบสกอร์ได้ ก่อน จอร์แดน พิคฟอร์ด ที่เซฟบอลได้ติดมือ เปิดบอลโด่งยาวมาถึง แฮร์รี่ เคน ใช้ตัวบังเอาบอลลงได้สวย ก่อนม้วนรอหนึ่งจังหวะแล้วไหลต่อให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่เติมเกมขึ้นมาจับบอลด้วยเท้าซ้ายก่อนกดด้วยซ้ายก่อนกดด้วยขวา บอลเสียบโคนเสาอย่างสวยงาม เด เกอา หมดสิทธิ์เซฟ
ทัพ ทรีไลอ้อน ยังคงต่อบอลกันได้ดีและแม่นยำอย่างไม่น่าเชื่อ ก่อนจะเพิ่มสกอร์ให้กับทีมอีกหนึ่งประตู ในนาที 38 จากจังหวะ รอสส์ บาร์คลีย์ ยกบอลเข้าเขตโทษให้ แฮร์รี่ เคน ตามไปตวัดกลับมาหน้าปากประตู ราฮีม สเตอร์ลิง วิ่งเข้ามาชาร์ตจ่อ ๆ ไม่เหลือ โดยที่แนวรับของ สเปน ทำได้แค่เพียงวิ่งประคองเท่านั้น สกอร์บอร์ด โชว์ 3-0
รูปเกมหลังจากนั้น สเปน พยายามต่อบอลหาโอกาสเข้าทำเพื่อหวัง ทวงประตูตีไข่แตก แต่จนแล้วจนเล่าก็ไม่ได้โอกาสจบแบบถนัด ทำให้จบครึ่งแรก เป็น อังกฤษ บุกมานำเหลือเชื่อ 3-0
เริ่มเกมมาในครึ่งหลัง สเปน เร่งเครื่องหวังทำประตูตีไข่แตก มาในช่วงนาที 56 เซอร์คิโอ บุสเก็ตส์ ได้เก็บตกหน้าเขตโทษก่อนเลือกกดด้วยเท้าข้างซ้าย แต่บอลไม่ห่างตัว จอร์แดน พิคฟอร์ด มากเท่าไหร่
เอ็นริเก้ ตัดสินใจ แก้เกมโดยเลือกส่ง ปาโก อัลกาแซร์ ดาวยิงจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และ ดานี่ เซบายอส ลงเล่น ก่อนเลือกถอด ซาอูลนีเกซ, ยาโก้ อัสปาส ที่เล่นได้ต่ำกว่า มาตรฐาน
รูปเกมเริ่มเปลี่ยนทันที ตัวสำรองของทัพ สเปน ทำงานสร้างจังหวะได้ จากจังหวะ มาร์โก อาร์เซนซิโอ เปิดบอลมาเสาแรก ปาโก อัลคาแซร์เทคตัวขึ้นโหม่ง ไม่มีคนประกบ ก่อนสะบัดหัวส่งบอลเข้าเสาไกลอย่างสวยงาม ซึ่งนี่ถือเป็นการโดนบอลจังหวะแรกของเกมอีกด้วย สเปน ตีไข่แตก ได้สำเร็จเป็น 3-1
มาในช่วงนาที 64 มนสนามมีความวุ่นวาย เมื่อ จอร์แดน พิคฟอร์ด ล็อกบอลจากจังหวะโดน โรดริโก้ โมเรโน่ ฉกบอลไปต่อหน้าต่อตา แต่จังหวะที่กำลังจะหลุดเดี่ยว จอร์แดน พิคฟอร์ด ตามมาได้ทัน ก่อนที่ พิคฟอร์ด จะสไลด์ ตัวเตะบอลทิ้งออกหลังไป โดยมีการวิ่งประท้วงผู้ตัดสินจากผู้เล่น สเปน โดยมองว่าจังนั้นน่าจะเป็นจุดโทษ เพราะมองว่า พิคฟอร์ด ไปดึง โมเรโน่ แต่กรรมการเลือกให้เป็นเพียงลูกเตะมุมเท่านั้น
มาจนกระทั่งช่าวง ทดเจ็บนาทีสุดท้าย สเปน มาได้อีกประตู ดานี่ เซบายอส เปิดบอลเข้าเขตโทษให้ เซร์คิโอ รามอส ทิ้งตัวโขกเข้าไปสุดสวย ทำให้จบเกม อังกฤษ บุกชนะ สเปน 3-2
สถิติสำคัญ
ไม่น่าเชื่อว่า สเปน จะแพ้ อังกฤษ ได้ เนื่องจากดูจากสถิติโอกาสการยิงประตูแล้ว สเปน มีมากถึง 23 ครั้ง เข้ากรอบ 5 ครั้ง ในขณะที่ สิงโตคำราม มีเพียง 5 ครั้งเท่านั้น เข้ากรอบไป 3 ครั้ง ทำได้ทั้ง 3 ประตู
เปอร์เซ็นต์การครองบอลก็ต้องบอกว่า สเปน ทำได้ดีกว่า โดยมีเปอร์เซ็นต์การครองบอลสูงถึง 73 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ อังกฤษ มีเพียง 27 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ตามรายงานจาก
สรุปผลงาน
สเปน พลาดท่า แพ้เป็นนัดแรกทำให้อดผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ส่วน อังกฤษชนะนัดแรกในรายการนี้ทำให้กลุ่ม
A4 ต้องไปลุ้นเข้ารอบกันในนัดสุดท้ายติดตามผลคู่อื่น ๆ ได้ที่ ยูฟ่า เนชั่นส์ลีก 2018 ผลการแข่งขัน
●●●
เข้าชมบล็อคของเราเพื่อดูข้อมูลต่างๆ และค่าอ๊อดส์ที่หลากหลายของฟุตบอล
อัพเดทข่าวสารทุกอย่างเกี่ยวกับกีฬาและการเดิมพัน
