ฟุตบอลโลก 2018 รอบรองชนะเลิศ
ฝรั่งเศส vs เบลเยี่ยม
วันที่ 11 มิถุนายน 2018
สนาม สนามเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
เวลา 01.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
วิเคราะห์ฟุตบอล ฝรั่งเศส vs เบลเยี่ยม
ทีมชาติฝรั่งเศส เต็งแชมป์หนึ่งเดียวที่เหลืออยู่ในทัวร์นาเมนต์นี้ ทำผลงานได้ดีในรอบแบ่งกลุ่มแม้ว่าจะเจ๊าเดนมาร์ก 0-0 แต่อีกสองนัดที่เหลือชนะรวด ( 2-1 ออสเตรเลีย, 1-0 เปรู ) แต่นั้นก็ดีพอที่จะทำให้พวกเขาผ่านเข้ารอบต่อไปในฐานะผู้นำกลุ่มนำกลุ่ม ซี ต่อด้วยรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่เขี่ยอาร์เจนตินาตกรอบไปแบบกำจัดเสี้ยนหนามด้วยสกอร์ 4-3 สุดเร้าใจพร้อมส่งทีมฟ้าขาวกลับบ้านด้วยน้ำตา ส่วนในรอบ 8 ทีม ดูไม่ใช่งานยากอะไรกับการเอาชนะอุรุกกวัยไป 2-0 ความโดดเด่นของทีมตราไก่ในฟุตบอลโลก 2018 คือการขับเคลื่อนทีมพลังหนุ่มซึ่งนักเตะอยู่ในช่วงวันที่กำลังพีค คิเลีย เอ็มเปปเป้ ในนาทีนี้ไม่มีใครร้อนแรงเทียบเท่าเขาแล้ว รวมไปถึง อองตวน กรีซมานน์ และ ราฟาเอล วาราน ทำได้ดีงามตามมาตรฐาน เบนจามิน โอตาเมนดี้ ที่บทบาทในเกมรุกช่วยทีมได่มากมาย ส่วน พอล ป็อกบา ก็ทำได้ดีกว่าที่เคย ทีมของกุนซือ ดีดีเย เดช็อง แทบไม่มีความและพร้อมลุยศึกนี้อย่างเต็มที่ซึ่งเป้าหมายของพวกเขาคือแชมป์โลก
ทีมชาติเบลเยี่ยม ยังคงคำว่าทีมที่ดีที่สุดของทัวร์นาเมนฟุตบอลโลก 2018 ครั้งนี้ ระเบิดผลงานดีตั้งรอบแบ่งกลุ่มกับการชนะสามนัดรวด (3-0 ปานามา, 5-2 ตูนีเซีย, 0-1 อังกฤษ) เป็นผู้นำกลุ่ม จี อย่างสวยงามพร้อมประตูได้เสีย +7 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ทัพปิศาจแดงยุโรปก็พลิกนรกชนะญี่ปุ่น 2-3 ทั้งๆ ที่ถูกนำก่อนถึงสองประตู เห็นได้ชัดเจนเลยว่าพวกเขานั้นสู้เต็มที่และไม่หวั่นใจในการถูกนำก่อนเลย และในรอบ 8 ทีมสุดท้ายที่ต้องพบกับเต็มแชมป์อย่างบราซิล ก็สู้กันได้อย่างสมศักดิ์ศรีเปิดเกมรุกรับสลับกัน โดยแทบจะดูไม่ออกเลยว่าเบลเยี่ยมเป็นทีมรอง จบเกมในเวลา 90 นาที ไปด้วยการส่งทัพแซมบ้ากลับบ้านด้วยสกอร์ 2-0 นับได้ว่าจากม้ามืดสู่เต็งแชมป์ได้เลยสำหรับเบลเยี่ยมในปีนี้ ด้วยความโดดเด่นในด้านความสมดุลของทีมที่ผู้เล่นทุกคนส่งเสริมกันได้ ไม่ฝากความหวังไว้ที่ใครคนเดียว ทำให้ทีมเวิร์คของพวกเขาคือสิ่งที่น่ากลัวสำหรับคู่ต่อสู้ โรเมอู ลูกากู กับฝลงานการล่าตาข่ายที่เชื่อใจได้ เอเดน อาร์ซา ทำเกมรุกได้ยอดเยี่ยม รวมไปถึงผู้เล่นของทีมที่ทำได้ดีกว่ามาตรฐานด้วยซ้ำ ทีมของกุนซือโรแบร์โต้ มาร์ติเนซ กับโอกาสชูถ้วยอัซซูรี่นั้นมีมากเลยทีเดียว
เมื่อดูสถิติการพบกันแล้วยอมรับเลยว่าทั้งสองทีมคู่คี่สูสีกันอย่างมาก จุดเด่นที่เหมือนกันของสองทีมนี้คือ ทีมเวิร์คและความสมดุลภายในทีม ซึ่งทำให้สามารถขับเคลื่อนจนมาถึงจุดนี้ได้ แต่อย่างไรก็ดีเมื่อมาดูเรื่องความสม่ำเสมอของผู้เล่นแล้ว ทัพตราไก่ดูจะได้เปรียบเล็กน้อยในในเรื่องทักษะ เพราะว่าทางฝั่งเบลเยี่ยมนั้นเน้นการเล่นเป็นทีมมากกว่า จึงทำให้จังหวะการปะทะและโต้กลับอาจจะยังสู้ฝรั่งเศสไม่ได้ ประกอบกับความเเค้นใจของทีมตราไก่ที่พ่ายคาแผ่นดินตัวเองในฟุตบอลยูโร 2016 ในรอบชิงชนะเลิศ ความมุ่งมั่นและแรงผลักดันตรงนี้คงทำให้พวกเขาลุยเต็มที่
สถิติการพบกันของทั้ง 2 ทีม
18 พฤษภาคม 2002 ฝรั่งเศส 1-2 เบลเยี่ยม (ฟุตบอลนัดกระชับมิตร)
18 กุมภาพันธ์ 2004 เบลเยี่ยม 0-2 ฝรั่งเศส (ฟุตบอลนัดกระชับมิตร)
15 พฤศจิกายน 2011 ฝรั่งเศส 0-0 เบลเยี่ยม (ฟุตบอลนัดกระชับมิตร)
14 สิงหาคม 2013 ฝรั่งเศส 0-0 เบลเยี่ยม (ฟุตบอลนัดกระชับมิตร)
07 มิถุนายน 2015 ฝรั่งเศส 3-4 เบลเยี่ยม (ฟุตบอลนัดกระชับมิตร)
11 ตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม
เบลเยี่ยม: 3-4-2-1: ธิโบต์ คูร์กตัวส์, แยนแฟร์ทองเก้น, แวงซองต์ กอมปานี, โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, เนเซอร์ ชาดลี, แอ็กเซล วิทเซล, เควิน เดอ บรอยน์, โธมัส มูเนียร์, เอเด็น อาซาร์, ดรีส์ แมร์เทนส์, โรเมลู ลูกากู
ฝรั่งเศส 4-3-3 : อูโก้ โยริส – แบ็งฌาแม็ง ปาวาร์, ราฟาแอล วาราน, ซามูแอล อุมตีตี้, ลูก้าส์ แอร์กน็องเดซ – โกร็องแต็ง โตลิสโซ, เอ็นโกโล ก็องเต้, พอล ป็อกบา – คิเลียน เอ็มบั๊ปเป้, โอลิวิเยร์ ชิรูด์, อ็องตวน กรีซมันน์
●●●
เข้าชมบล็อคของเราเพื่อดูข้อมูลต่างๆ และค่าอ๊อดส์ที่หลากหลายของบอลโลก 2018
อัพเดทข่าวสารทุกอย่างเกี่ยวกับกีฬาและการเดิมพัน
